เราคิดว่าหาก ปราศจากกรงขัง หรือเครื่องพันธนาการต่างๆ เราก็จะเป็นอิสระ เราคิดว่าการที่ได้ทำอะไรตามใจปรารถนา นั่นก็คืออิสระ เราคิดว่าเราต้องมีสิ่งนั้นสิ่งนี้ที่เขาว่ากันว่าจะมอบ “อิสระ” ให้เราอย่างแท้จริง เราจึงจะเป็นอิสระ แต่คำถามก็คือ สิ่งที่เราคิดนั้น มันจะมอบอิสรภาพให้แก่เราได้จริงหรือ
คนที่รวยล้นฟ้า ใช่ว่าจะมีอิสรภาพทางการเงิน คนที่ครอบครองผืนดินกว้างใหญ่ ใช่ว่าจะมีอิสรภาพอย่างแท้จริงบนพื้นดินผืนนั้น คนที่เป็นนักบวชหรือถือศีลเคร่งครัด มีคนกราบไหว้บูชา ใช่ว่าจะมีอิสรภาพ ทางจิตใจ…คนเหล่านี้อาจยังอยู่ในกรงขังที่ไม่มีซี่กรง ไม่มีกุญแจใส่มือใส่เท้า แต่เป็นกรงขังที่คนเหล่านั้นสมัครใจเข้าไปอยู่เอง โดยที่เขาอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่านั่นคือ คุก!
แล้วอะไรล่ะ คืออิสรภาพที่แท้จริง
สิ่งที่ OSHO กล่าวไว้ในหนังสือเล่มนี้ มีทั้งอิสรภาพที่ลวงหลอกและอิสรภาพที่แท้จริง การจะได้มาซึ่ง “อิสรภาพ” นั้น เราไม่ต้องไปป่าวร้องเรียกหาหรือทำการปฏิวัติใดๆ หากเรามีอิสรภาพที่แท้จริงแล้วไซร้ แม้จะอยู่แห่งหนใด หรือเกิดเหตุการณ์ใด เราก็ไม่ตกเป็นทาสของผู้ใดหรือสิ่งใดทั้งนั้น แต่ต้องเข้าใจให้ได้ก่อนว่าอิสรภาพที่แท้จริงนั้นคืออะไร ทุกถ้อยคำและเรื่องเล่าที่ OSHO ถ่ายทอดไว้ในหนังสือเล่มนี้ จะช่วยให้คุณสามารถเข้าใจถึงอิสรภาพที่แท้จริงได้ด้วยตัวของคุณเอง
มีเพียงอิสรภาพที่แท้จริงเท่านั้นที่จะสร้าง ความสงบสันติในทุกเขตแคว้นแดนดินได้ มีเพียงอิสรภาพที่แท้จริงเท่านั้นที่นำพาความปีติเบิกบานใจมาอยู่กับตัวท่าน ได้